หงส์แดง ลิเวอร์พูล กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ติดตามบอลพรีเมียร์ 2019-20 ที่สยามสปอร์ตทีวี

หงส์แดง ลิเวอร์พูล กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ติดตามบอลพรีเมียร์ 2019-20 ที่สยามสปอร์ตทีวี

เรามาถึงจุดที่ต้องทำการแข่งขันฟุตบอลกันโดยไม่มีคนดูได้อย่างไร ชีวิตวิถีใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอล คงเป็นเรื่องที่เราปฏิเสธไม่ได้ แม้แต่ทีมที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในฤดูกาล 2019-20 อย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล การเลื่อนการแข่งขันออกไปในช่วงที่ทีมกำลังพีคนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่บีบหัวใจสาวก หงส์แดง เป็นที่สุด เพราะถ้า ลิเวอร์พูล ชนะอีกเพียง 3 นัด ก็จะสามารถคว้าแชมป์ครั้งแรก ในรอบ 30 ปี

หลังจากที่เริ่มต้นฤดูกาล 2019-20 ด้วยผลงานการทุบสถิติยุโรปรายการต่าง ๆ ตั้งแต่ ชนะคู่แข่งครบทุกทีมใน 1 ฤดูกาล, ชนะในพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 18 นัด, ชนะในบ้านติดต่อกัน 21 นัด และ ทำคะแนนห่างจากอันดับสองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 25 คะแนน การได้ลุ้นการเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด เร็วที่สุด ซึ่งเจ้าของสถิติเดิมก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2000 – 01 ซึ่งในตอนนั้นขึ้นเป็นแชมป์ ทั้ง ๆ ที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 5 นัด และสุดท้ายคือสถิติไร้พ่าย 49 นัด ที่อาร์เซนอลเคยทำไว้ในฤดูกาล 2003 – 04 ซึ่งตอนนี้ ลิเวอร์พูล ทำสถิติไร้พ่ายได้ 44 นัดแล้ว

เมื่อการแข่งขันกลับมาเริ่มกันอีกครั้ง ก็ได้เวลาที่เราจะติดตามผลงานความร้อนแรงของ หงส์แดง กันต่อ ว่าจะสามารถครองแชมป์ลีกฟุตบอลอาชีพของอังกฤษได้ตามที่คาดหมายกันหรือไม่ โดยทางเว็บ siamsport.tv มีโปรแกรมการแข่งขันให้คุณได้ติดตามครบทุกนัด หรือสามารถดูไฮไลท์ ดูบอลย้อนหลัง ก็ได้เช่นกัน

พรีเมียร์ลีก 2019 – 20 หงส์แดง ฟอร์มร้อนแรงไม่หยุดยั้ง

สถิติงดงามที่ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทำเอาไว้ในฤดูการนี้ มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ 2 – 3 ปีก่อนหน้านี้แล้ว เหมือนการค่อย ๆ สะสมไต่เต้าอันดับ และผลงานการปิดฤดูกาล เพื่อเตรียมมาระเบิดฟอร์มสุดยอดในฤดูกาลนี้ ภายใต้การนำทัพของเยอร์เกน คล็อพ ( Jürgen Klopp ) กุนซือชาวเยอรมัน ลิเวอร์พูล กลับมา เปล่งประกายอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายบัลลังก์แชมป์ไปตั้งแต่ฤดูกาล 2011 – 12

หลังจากการเข้ามาคุมทีม ในถิ่นแอนฟิลด์ ในฤดูกาลแรก 2015-2016 เยอร์เกน คล็อพ ทำให้ผลงานของ หงส์แดง กลับขึ้นมาโดดเด่นอีกครั้งในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เขาสามารถพา ลิเวอร์พูล เข้าชิงฟุตบอลถ้วยได้ถึง 2 รายการ ถึงแม้จะพลาดถ้วยไป แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ บนเส้นทางเดิมของลิเวอร์พูล

จนการเดินทางได้มาถึงฤดูกาลอันยอดเยี่ยมของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2019/2020 จากการสะสมผลงาน ไต่ระดับความสำเร็จ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพียงแค่ครึ่งฤดูกาลก็สามารถ คว้าแชมป์มาเพิ่ม อย่าง UEFA Super Cub และแชมป์สโมสรโลกได้ อีกทั้งฟอร์มของทีมในพรีเมียร์ลีกก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน มีคะแนนนำทีมอันดับที่ 2 อย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้อยู่ถึง 25 แต้ม เส้นทางในการคว้าชัยพรีเมียร์ลีกอยู่ไม่ไกล ถึงแม้ในตอนนี้จะไม่มีใครบอกให้ว่าลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกจริง ๆ หรือไม่ ชีวิตวิถีใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากการระบาดของโควิด19 ทำให้ต้องมีการเลื่อนการแข่งขัน พรีเมียร์ลีกออกไปร่วม 2 เดือนสิ่งนี้จะเป็นตัวฉุดรั้งความร้อนแรงของลิเวอร์พูลหรือไม่ ไม่มีใครรู้

หงส์แดง บททดสอบสภาพจิตใจ ใกล้เคียงจะคว้าแชมป์ แต่ยังไม่ใช่เวลา

ฤดูกาล 2017-2018 ถึงได้ว่าเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทีม หงส์แดง มีนักเตะคุณภาพ ฝีเท้าดี ตบเท้าพากันเข้าถิ่นแอนฟิลด์ อย่างล้นหลาม เช่น โมซาล่าห์ , แอนดริว โรเบิร์ตสัน , เวอร์จิล ฟานไดค์ ซึ่งในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ภายใต้การนำของคล็อฟ โดยแข่งขันพบกับ รีอัล มาดริด แต่ก็ยังไม่สามารถคว้าแชมป์เอาไว้ได้

ถึงแม้จะเป็นความผิดหวังอีกครั้งของ ลิเวอร์พูล แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ บทเรียนจากการเรียนรู้ถึงข้อผิดพลาด เพื่อนำมาปรับใช้และเริ่มต้นกันใหม่ในฤดูกาลหน้าจึงเป็นที่มาที่ทำให้ Season 2018-2019 เจ้านกลายเวอร์ ทะยานสูงขึ้นกว่าเดิม

เรียนรู้จากข้อผิดพลาด แล้วก้าวย่างไปอย่างมั่นคง แบบ หงส์แดง

3 ประสานแนวรุกอย่าง มาเน่ , ซาล่า , เฟอร์มิโน รวมถึงหัวหอกแนวรับของทีมอย่างเวอร์จิลฟานไดค์ ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมเป็นที่น่าประทับใจ สถิติงดงาม แข่ง 38 เกมชนะ 30 เสมอ 7 แพ้ 1 มีคะแนนทั้งหมด 97 แต้ม เส้นชัยอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่การพ่ายแพ้เพียงหนึ่งครั้งของ หงส์แดง ให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ ทำให้ได้รับฉายา รองแชมป์ที่มีแต้มสูงสุด และพลาดท่าให้แมนซิตี้เป็นผู้คว้าแชมป์ไปแทนด้วยคะแนน 98 แต้มนั่นเอง

และนี่ก็เป็นบททดสอบของ ลิเวอร์พูล อีกครั้งจากการพลาดถ้วย พลาดแชมป์ ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังสามารถทุ่มเทสมาธิและจิตใจไปที่การแข่งขัน UEFA Champion League จนทำให้สามารถทะลุเข้ามาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้ และได้โคจรมาพบกับบาร์เซโลนา การเตะนัดแรกแบบเยือน ต้องไปเตะกับบาซ่าร์ในถิ่นคัมป์นู ผลการแข่งขัน Liverpool พ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 3 ต่อ 0 แทนที่จะขวัญเสีย แต่ลิเวอร์พูลไม่มีการถอดใจ โชว์ฟอร์มล้างแค้น ที่สนามแอนฟิลด์ของตัวเอง จบสกอร์ไปได้อย่างสวยงามที่ 4 ต่อ 3

เสียงเพลงสโมสรดังกระหึ่มกึกก้องในสนามคราบน้ำตาแห่งความดีใจของสาวกเดอะค็อป ที่ร่วมกันเปล่งเสียงร้อง Walk on , Walk on with hope in Your Heart and you Will Never Walk Alone You’ll Never Walk Alone เป็นกำลังใจส่งให้นักเตะ เข้าไปแข่งในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีกได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

สำหรับรอบชิงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2018-2019 เป็นการพบกันกับสเปอร์ ซึ่งเป็นทีมร่วมประเทศที่สร้างปาฏิหาริย์พลิกล็อกเอาชนะอาแจกซ์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงได้เช่นกัน เริ่มต้นเกมไปได้เพียง 2 นาที ลิเวอร์พูล ทำประตูขึ้นนำก่อน และกระทุ้งประตูที่ 2 ในนาทีที่ 87 จากดิว็อค โอริกี้ และจากความพยายามหลายครั้งในที่สุด หงส์แดง สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี คว้าถ้วย ได้เป็นสมัยที่ 6 ไปอย่างน่าภาคภูมิใจ

ที่มาของฉายา หงส์แดง ลิเวอร์พูล

เกี่ยวกับเรื่องการตั้งฉายาทีม ลิเวอร์พูล จนกลายเป็นชื่อเรียกติดปากกันว่า หงส์แดง มีที่มามี่ไปอยู่ว่า สมัยก่อน เวลาตั้งฉายาทีมและนักเตะ ทีมข่าวกีฬา หรือ หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ จะพยายามตั้งให้ดูเกรงขาม ดุดัน ยิ่งใหญ่ ซึ่งถ้าทีมมีชื่อเล่นแบบภาษาอังกฤษดั้งเดิมที่ดูดีอยู่แล้ว ก็มักจะใช้ชื่อเดิมของทีมมาแปลตรงตัวเลย เช่น แมนฯ ยูไนเต็ด ฉายา Red Devil พอแปลเป็นไทยก็จะได้ว่า “ปีศาจแดง”

แต่ในกรณีของ ลิเวอร์พูล ชื่อเล่นตามภาษาอังกฤษ เรียกว่า The Reds ซึ่งพอนำมาแปลเป็นไทยมันแปลว่า “สีแดง” ซึ่งความยิ่งใหญ่ดุดันที่ต้องการ มันไม่ได้อารมณ์คนทำข่าว ก็เลยต้องมาหาฉายาที่คนไทยจำได้ง่ายๆ และดูดี แล้วก็มีทีมงานคนนึงของสยามสปอร์ต เสนอชื่อ หงส์แดง ออกมา ทางผู้ใหญ่ ( ย โย่ง ) ฟังแล้วเข้าท่าดี เลยเรียกว่า หงส์แดงตั้งแต่นั้นมา

ดังนั้นชื่อเล่นของทีม ลิเวอร์พูล ที่แฟนบอลเดอะคอปเรียกกันนั้น คือ The Reds มาจากการที่ชุดประจำทีมนั้นเป็นสีแดงทั้งชุด ส่วนฉายา หงส์แดง เป็นที่รู้จักกันเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น และไม่ได้หมายถึงเจ้านกที่อยู่บนตราสโมสรของทีมด้วย นั่นไม่ใช่หงส์ แล้ไม่ใช่ที่มาของคำว่า หงส์แดง สำหรับเรื่องน่ารู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทีม ลิเวอร์พูล ที่น่าสนใจ คือ

  • สัญลักษณ์นกที่อยู่บนโลโก้ทีมนั้น เรียกว่า Liver birds ออกเสียงว่า ลายเวอร์
  • นก Liver Birds เป็นสัญลักษณ์ของเมืองลิเวอร์พูล และทีมนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของทีมไปโดยปริยาย
  • นกชนิดนี้ไม่มีอยู่จริง คาดเดากันว่าเป็นการตั้งชื่อเรียกให้พ้องไปกับชื่อเมือง Laver ซึ่งต่อมาเพี้ยนเป็น Liver
  • เมื่อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลก่อตั้งในปี 1892 นก Liver Bird ก็ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของสโมสร
  • ลิเวอร์พูล เคยเป็นสโมสรเดียวกันกับ Everton มาก่อน

จากความพยายามอย่างไม่ย่อท้อของ ลิเวอร์พูล หลายต่อหลายครั้งที่ทีม หงส์แดง เกือบจะคว้าถ้วยเอาไว้ได้ แต่ถึงแม้ยังไม่ถึงดวงดาว แต่สปิริตของนักเตะนั้นไม่ลดน้อยลงเลย อีกทั้งกองเชียร์ที่ยังเหนียวแน่นส่งกำลังใจให้ทุกนัด ร่วมยินดี ไม่ซ้ำเติม นี่คือจุดที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังยืนหยัดอยู่ได้ “ศรัทธาของแฟนบอล” แม้จะยังไม่เข้าเส้นชัย เฉียดไปเฉียดมาอยู่หลายครั้ง แต่ทีมไม่เคยมองว่าคือความล้มเหลว ยังคงมุ่งมั่นแข่งขันทุกนัดให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป จนถึงตอนนี้ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019 – 20 หนทางของ ลิเวอร์พูล สว่างสดใส เส้นชัยอยู่ตรงหน้า ก็ต้องมาลุ้นกันว่า หงส์แดง จะสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้หรือไม่ ซึ่งคุณสามารถติดตามโปรแกรมการแข่งขันได้จาก siamsport.tv